Corporate Wellness สร้างสุขสภาพในองค์กร

Corporate Wellness สร้างสุขสภาพในองค์กร
พร้อมฟื้นกิจการผ่านวิกฤต
Wellness หรือสุขสภาพ คือ trend สำคัญในยุค New Normal ที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขสภาพ ไม่เพียงแต่สุขสภาพส่วนตัว แต่ต้องมองถึงสุขสภาพขององค์กร เพราะตราบใดที่องค์กรยังต้องใช้คนในการขับเคลื่อนงานเพื่อความสำเร็จ ทรัพยากรบุคคลจึงเป็นหัวใจสำคัญต่อการฟื้นตัวหลังวิกฤตและเติบโตอย่างเข้มแข็ง
การดูแลสุขสภาพของพนักงานในองค์กรจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จ เพราะหากพนักงานสุขภาพดี ผลลัพธ์สุดท้ายที่ทุกองค์กรได้รับคือผลงาน (Performance) ขององค์กรที่ดีขึ้น ดังนั้นการให้ความสำคัญกับเรื่อง Corporate Wellness จึงไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพส่วนบุคคลของพนักงาน แต่มันคือหัวใจสำคัญขององค์กร
สุขสภาพในที่ทำงาน กลายเป็นเรื่องที่ผู้นำองค์กรเริ่มให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ดังที่มีหลายงานวิจัยที่พบว่า การดูแล Corporate Wellness ในองค์กรจะมีผลดีอย่างมากมาย ที่ช่วยตอบโจทย์ปัญหาพื้นฐานสำคัญด้านพนักงานให้กับผู้บริหาร เช่น
• ช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพของพนักงาน
• ช่วยลดการขาดงานเนื่องจากการเจ็บป่วย
• เพิ่ม productivity ของพนักงาน
• ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการชดเชยพนักงานจากการบาดเจ็บและพิการที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุในการทำงาน
• เพิ่มความผูกพันภักดี (employee loyalty and engagement) ให้กับองค์กร
• เพิ่มความสุขในการทำงานของพนักงานในองค์กร
ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า ปัญหาด้านสุขภาพของพนักงานในองค์กรต่างๆ มีที่พบบ่อย เช่น โรคเกี่ยวข้องกับอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว ความเครียด พักผ่อนไม่พอ โรคเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิต ไขมันสูง โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน นอกจากนี้ยังมีโรคที่เกี่ยวข้องโดยตรงจากการทำงานเฉพาะสาขา เช่น เสียงดังทำให้เกิดการได้ยินเสื่อม อุบัติเหตุการบาดเจ็บจากเครื่องจักร
สุขสภาพในที่ทำงาน ยังมีขอบเขตที่กว้างกว่าเพียงแค่เรื่องความเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ จากการทำงาน แต่ครอบคลุมทั้งสุขภาพทางกาย จิต และสังคม ซึ่งเป็นการมองพนักงานอย่างเป็นองค์รวม ความอ่อนล้าทางจิต หรือปัญหาการอยู่รวมกันในสังคมที่ทำงาน ล้วนมีผลต่อสุขภาพกายทั้งสิ้น การดูแลพนักงานแบบ Corporate Wellness จึงเป็นการดูแลพนักงานแบบบูรณาการ และเน้นการป้องกันก่อนไม่ให้เกิดความเจ็บป่วย ดังนั้น สุขสภาพในองค์กร จึงไม่ใช่แค่การตรวจสุขภาพประจำปี!!!
ผู้มีหน้าที่ดูแลสวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในองค์กร จึงควรได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Corporate Wellness ในหลักสูตรที่สอนเกี่ยวกับ Wellness อย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถออกแบบองค์ประกอบการบริหารพนักงานอย่างบูรณาการเพื่อสร้างสุขสภาพของพนักงานอย่างครบวงจรรอบด้าน
ขั้นตอนในการสร้างสุขสภาพภายในองค์กร อาจเริ่มต้นที่ผู้นำองค์กรให้การสนับสนุนและเห็นชอบในเรื่องนี้ และจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดำเนินการ
1. การประเมินสุขสภาพภายในองค์กร จากข้อมูลผลการตรวจสุขภาพ การขาดงานหยุดงานเนื่องจากการเจ็บป่วย สิ่งแวดล้อมภายในที่ทำงานที่อาจมีผลต่อสุขภาพ
2. การออกแบบขอบเขตและเป้าหมายของสุขสภาพภายในองค์กร
3. จัดทำงบประมาณ และแผนการดำเนินงานสร้างสุขสภาพ
4. จัดกิจกรรมและวางแผนสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานที่สามารถปรับปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น
5. ทำการสื่อสาร และติดตามวัดผล สร้างจนเกิดเป็นวัฒนธรรมสุขสภาพในองค์กร
การสร้างองค์กรที่มีวัฒนธรรมการดูแลสุขสภาพของตนเองและทีมงานจะเกิดขึ้นต้องอาศัยวิสัยทัศน์การนำองค์กรของผู้นำองค์กรที่ให้ความสำคัญ (leadership) และเป็นต้นแบบในการดูแลตัวเองให้กับคนในองค์กร รวมทั้งการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ (management) เป็นกลยุทธ์ในการสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรและเป็นการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร ซึ่งไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อองค์กรแต่ยังเป็นประโยชน์ทั้งในระบบสังคมและระดับประเทศอีกด้วย
นพ.นรินทร สุรสินธน
– Medical Director Vitallife Scientific Wellness Center @RAKxa
– อาจารย์หลักสูตรผู้นำการประกอบการ Wellness เพื่อการสร้างชาติ (นสช. Wellness)

อ้างอิง
https://www2.deloitte.com/…/designing-work-employee…
https://vitalityworks.health/…/The-7-biggest-health…
https://www.kff.org/…/trends-in-workplace-wellness…/
https://www.shrm.org/…/howtoestablishanddesignawellness…